วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Eclair & Choux Cream are they the same?

มาตอนนี้ยังไม่ได้เทสต์ขนมอะไรเพิ่มเติม แต่ได้รับรู้เรื่องที่ไขข้อข้องใจมาตั้งแต่ยังเด็กๆ ก็เลยขอเอามาเล่าต่อนะค้าบ
เห็นเรียกมาแต่เด็กๆว่าไอ้ขนมไส้ครีมแสนหวานอร่อย มีทั้งแบบแท่ง แบบกลมๆ แบบหงส์บ้าง ว่า เอแคลร์ เห็นมันมาหลายทรงหลายแบบ มาหลังๆมีคนเรียกมันว่า ชูครีม ( Choux Cream)บ้าง อะไรบ้าง

เอาล่ะเหวย มันชื่ออะไรกันแน่ฟะเนี่ย?

ก็เลยขอทำการค้นคว้าเพิ่มเติมจักกะหน่อย ก็เลยทราบว่า มันเหมือนแต่ก็ต่างกันจริงๆ ผ่างๆๆๆ

Eclair นั้นจริงๆหมายถึง ขนมอบสอดไส้ครีม ทรงยาวๆ ที่มีการราดช้อคโกแลตด้านบน และในแบบดั้งเดิมนั้นช้อคโกแลต ต้องวาดลวดลายเป็นหยักๆคล้าย ลายสายฟ้า ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสนั้น Eclair แปลว่า สายฟ้านั่นเอง แต่ที่เห็นๆปัจจุบันเป็นราดชอคโกแล๊ตเต็มๆซะเป็นส่วนใหญ่มากกว่า


ว่ากันจริงๆอีแป้งของ Eclair มันก็แป้ง Choux นั่นเองแหละ ไม่ได้ต่างกัน และ แป้ง Choux นั้นก็ทำมาจากแค่ เนย น้ำ แป้ง ไข่ เท่านั้นเองจ๊า ซึ่งส่วนผสมที่ได้มานั้นก็เอาไปอบก็จะได้ ส่วนที่เป็นก้อนขนมออกมา แต่หากเอาไปทอดก็จะได้ขนมอีกชนิดนึงที่กินกับครีมได้อร่อยเด็ดเช่นกัน นั่นก็คือ Churros ชูโรส ขนมอร่อยไส้เป็นรู สอดไส้ครีม จากอเมริกาใต้นั่นเองจ๊า



เอ้า แล้วอี ชูครีมล่ะ ชูครีมนั่นก็คือ ขนมที่สากลเค้าเรียกกันว่า Profiterole โปรฟิตเตอโรล จ๊ะ หรือเรียกอีกชื่อนึงได้ว่า Cream Puff
ส่วนอี ชูเครีมเนี่ยมันเป็นชื่อที่นิยมกันใน ญี่ปุ่น คือจริงๆต้องเรียกว่า Chou a la Creme ตามแบบฝรั่งเศส คือพวกยุ่นปี่ เค้าชอบเรียกอะไรตามภาษาฝรั่งเศสต้นตำรับเท่านั้นล่ะจ๊ะ ส่วนชื่อ Choux นั้นก็มาจากรูปร่างกะยึกกะยือหยักๆคล้ากับหัวกระหล่ำ (Choux แปลว่า กระหล่ำ นั่นเอง)




สรุปว่า ต่างก็ต่าง เหมือนก็เหมือน นั่นแหละจ้่า อร่อยทั้งน้านแหละ

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ชง Milo ให้อร่อยเหมือนที่เขามาแจกตามโรงเรียนตอนเด็กๆ


เรื่องของเรื่องคือที่ออฟฟิศจัดอบรมคอร์สเขียน app บน iPhone แล้วมีไมโลซองแบบสำเร็จรูป คือใส่น้ำร้อนอย่างเดียวแล้วดื่มได้เลย พอกินแล้วมันยังไงไม่รู้ ไม่เห็นอร่อยเหมือนตอนที่อยู่ประถมที่ไมโล จะมาแจกไมโลคนละแก้ว เด็กๆ จะต่อแถวกันยาวเลยและมันเป็นไมโลที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมา

แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเดี๋ยวนี้ไมโลเขามีผลิตภัณฑ์ตั้งหลายรูปแบบ แบบกล่อง UHT แบบขวดพลาสติก ฯลฯ เลยวิ่งไป 7-Eleven ไปซื้อไมโลทุกแบบที่มีมาลองกิน ก็ยังไม่มีอันไหนมีรสเหมือนที่กินตอนเด็กๆ ซักแบบ เลยเอามาบ่นลงใน twitter/facebook

ปรากฏว่ามีเพื่อนๆ บอกสูตรมาให้ลองหลายแบบ และมีแบบนึงของคุณจุ่นสะดุดตา คือบอกให้ชงด้วยนมตราหมี ซึ่งพอมานั่งคิดจริงๆ แล้วมีประเด็นมาก เพราะ
1. นมตราหมีและไมโลเป็นผลิตภัณฑ์ของ Nestle ทั้งคู่ ถ้าเขาจะทำตัวอย่างสินค้ามาแจกเด็กตามโรงเรียน ก็น่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ในเครือเดียวกันก่อนมาเป็นส่วนประกอบ เมื่อทำการค้นคว้าเพิ่มเติมจึงพบว่า ทาง Nestle เพิ่งขายไลน์สินค้านมตราหมีแบบกระป๋องให้กับบริษัท F&N ไปเมื่อปีที่แล้วนี้เอง แต่เป็นการขายแบบให้สิทธิ์ในการผลิตและำจำหน่ายที่มีระยะเวลาจำกัด โดยใช้เทคโนโลยีและสูตรเดิม
2. นมตราหมีนั้น เป็นนม Sterilized และเป็นนมประเภทที่เข้ามาในตลาดเมืองไทยและยังเป็นนมสดประเภทเดียวที่สามารถหาซื้อได้ง่ายในยุค 30 ปีที่แล้ว ก่อนที่นมอื่นๆ ที่เราดื่มในปัจจุบันที่เป็นแบบ Pasteurized และ UHT จะเป็นที่นิยมกัน นม sterilized จะมีรสชาติและความหอมมันต่างจากนมสด uht และ pasteurized ค่อนข้างชัดเจน และในปัจจุบันนี้ทุกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของไมโลก็ใช้วิธี UHT และ pasteurized แทนหมดแล้ว นี่อาจเป็นเหตุสำคัญของรสชาติที่แตกต่างของไมโลที่แจกตามโรงเรียนเมื่อ 30 ปีที่แล้วกับไมโลสำเร็จรูปที่ขายอยู่ในปัจจุบันก็ได้
ทั้งนี้ นี่เป็นเพียงสมมุติฐานของเราเท่านั้น เพราะนมตราหมีนั้นมีราคาค่อนข้างแพง ถ้านำมาใช้แจกเด็กๆ จริง ต้นทุนจะสูงมาก อีกทางหนึ่งที่เป็นไปได้มากคือใช้นมผงในเครือ Nestle ซึ่งหากใครอยากทดลองก็โปรดส่งผลกลับมาให้เราทราบด้วยแล้วกัน

ว่าแล้วก็ออกเดินทางไปซื้อวัตถุดิบ
1. นมกระป๋องตราหมี ต้องดูให้ดีว่าเป็นกระป๋องที่มีกระดาษห่อสีเหลือง ปัจจุบันนี้นมตราหมีแตกไลน์สินค้าออกมาอีกมาก มีทั้งห่อกระดาษขาวที่เป็นแบบ no-fat และสีฟ้า low-fat เราใช้แบบดั้งเดิมห่อเหลืองเท่านั้น
2. ไมโลผงแบบดั้งเดิม
3. น้ำตาล

ตามสูตรที่ได้มาคือ
ไมโล 3 ช้อนชาพูน
นม 150 cc
น้ำตาล 1 ช้อนชาพูน


วิธีทำ
เราต้องอุ่นนมเสียก่อน โดยไม่ต้มนมโดยตรง
ต้มน้ำร้อนให้เดือด แล้วเทนมใส่แก้วทนไฟแล้วค่อยนำไปแช่ในน้ำเดือดจนนมร้อนแต่ไม่เดือด

กลับมาตักไมโล 3 ช้อนชาพูนๆ (ช้อนสุดท้ายไม่ต้องพูนเท่าไหร่ ลดลงนิดนึงเพราะนมตราหมีมีปริมาณ 140 cc ไม่ใช่ 150 cc ตามสูตร)
ใส่น้ำตาล 1 ช้อนชา (แบบซองของมิตรผลนี่ 1 ซอง = 1 ช้อนชาพอดี)
นำนมที่อุ่นแล้วมาเทใส่ในแก้ว ตรงนี้สำคัญมาก คือต้องเอานมมาเทใส่ไมโลและน้ำตาล
ไม่ใช่เอาไมโลไปเทใส่นม เพราะถ้าทำเช่นนั้นไมโลจะจับกันเป็นก้อน
คนไปด้วย เทไปด้วย อย่ารอให้ไมโลจับตัวเป็นก้อนอย่างเด็ดขาด

เสร็จแล้วให้หาที่แช่เย็น เย็นจัดๆ (โอ้ว ตู้เย็นเต็ม ทำไงดีวะเนี่ย?)
พอแน่ใจว่ามันเย็นได้ที่ โดยไม่แข็งเป็นน้ำแข็งไปเสียก่อน ก็เปิดออกมากินได้เลย
ไม่ต้องเติมน้ำแข็งอะไรอีกแล้ว

อาหย่อยๆ

ไมโลที่ชงได้นี้ ถือว่าอร่อยใช้ได้ทีเดียว รสชาติใกล้เคียงกับที่เขามาแจกตามโรงเรียนสมัยก่อน
สูตรนี้ความหวานกำลังพอเหมาะ ไม่หวานเจี๊ยบ ถ้าชอบหวานก็เติมน้ำตาลเข้าไปอีก แต่ถ้าถึงระดับ 2 ช้อนชานั้นหวานไป

ถ้าอยากเพิ่มความมันส์ก็ให้ใส่นมข้นหวาน อีกซักช้อนนึง หรือนมข้นจืดยกล้อก็ได้
แต่เราไม่ชอบ เพราะทั้งนมข้นหวานและนมข้นจืดนั้นเป็นไขมันปาล์มผสมเศษนมมากกว่า
เราจึงแนะนำให้เติม heavy cream หรือ whipped cream เลยจะเด็ดกว่า

ขอให้อร่อย
จานม่อน
follow me on twitter @ajarnmon

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

The Episode One of the Guinea Pig



ไอ้ครั้นจะเกริ่นไว้โก้ๆ แล้วไม่วิจารณ์อะไรคนเข้ามาอ่านมันจะได้ด่ามารดาของเราเปล่าๆ หาว่าเราเป็นพวกปั้นน้ำเป็นตัว ดังนั้นก็จะขอถือวิสาสะ ลุยกินไปก่อนเลยไม่รอพรรคพวก เพราะนี่ก็ตี 3 ครึ่ง จะปลุกมากินก็กะไรอยู่

Snack ที่จะลองลิ้มชิมรสวันนี้ก็คือ Pringles มันลุงหนวด ของเด็กไทยหัวใจอเมริกันนั่นเอง Pringles นั้นจะว่าไปก็มีรสคลาสสิค ที่เป็นที่ติดอกติดใจนักนิยมของขบเคี้ยวอยู่ก็หลายรส ไม่ว่าจะเป็น รส Original กระป๋องแดง หรือ รส Sour Cream& Onion ที่ให้รสชาติหอมมัน เปรี้ยวๆเค็มๆ กินแล้วหยุดยาก มาในกระป๋องเขียวสุดคลาสสิค บางคนก็ชอบรส Sea Salt กระป๋องฟ้า

แต่ครั้นจะให้ขายแต่รสเดิมๆเดี๋ยวจะเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง มันฝรั่งถุง พวก Lays ที่ขยันออกรสใหม่ซะเหลือเกิน แถมได้ Presenter สุดเซ็กซี่อย่างน้องพอลล่า ทำให้น่ากินยิ่งขึ้นเป็นทวีคูญ จะกึ๋ยๆๆ (Lays หลายๆรสมันจี้ดได้ใจกระผมเอาซะเหลือเกินเหมือนกัน ทั้งแซ่บ ทั้งเปรี้ยว อะฮ่า นึกแล้วก็หิว)

ดังนั้นเืพื่อไม่ให้เสียหลี่ยมลุงหนวด ที่เป็นหนึ่งในยุทธจักรมันฝรั่งแผ่นทอด ก็เลยมีการออกรสชาติใหม่ๆออกมาลุย ออกมาทีนึงก็ไม่ได้แค่รสสองรส ลุงหนวดแกมาที่ 5-6 รส (รวมถึงรสชาติชวนอาเจียนอย่าง รสบลูเบอรี่ ด้วยใครจะชิมก็ชิมไป ผมกินทีเดียวขอผ่าน....) และรสที่จะขอมาชิมให้ชมในคืนนี้ (เพราะมันเปิดอยู่แล้ว 555) ก็คือ รส Pringles Seaweed หรือ รสสาหร่าย นั่นเอง

บรรจุภัณฑ์ของรสสาหร่ายนั้น ชวนให้หยิบผิดเอามากๆ เพราะอาจจะสับสนกับสีเขียวๆของรส Sour Cream& Onion ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเวลาที่ท่านรีบ ถือว่าข้อนี้ลุงต้องเอาไปคิดเพิ่มนะลุงนะ

จุดเด่นอีกประการก็คือ สีสัน มันฝรั่งแ่ผ่นรสสาหร่ายนี้มาในสีสันใหม่ คือ สีเขียว! (เช่นเดียวกับรส กุ้ง ที่มาในสีชมพู) ช่วยให้แยกแยะรสชาติได้ง่ายๆไม่มีสับสน

กลิ่นล่ะ กลิ่นก็อ่อนๆนะ ต้องดมใกล้มากๆถึงจะได้กลิ่นสาหร่าย (ปลอม) นิดๆ ก็ชวนให้ลิ้มลองนิดๆเหมือนกัน

รสชาติล่ะ นี่แหละตัวการสำคัญ ผมให้มันสอบตกไปเลยดีไหม เพราะรสชาติมันอ่อนเกินไป ไม่สะใจ คนไทยเอาซะเลย ผมคิดว่าคุณเองก็เป็นคนที่เคยแทะสาหร่ายแผ่นอบแห้งเป็นขนมกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นของ เถ้าแก่น้อย หรือยี่ห้ออื่นๆ รสมันเข้มข้น ออกเค็มๆ กินแล้วคอแห้งโคตรๆ แต่อร่อยอย่าบอกใคร แต่สำหรับ Pringles Seaweed นั้นรสอ่อนๆออกไปทางหวานเอียนๆ ไม่สามารถปลุกจิตวิญญานจอมตะกละของผมได้ กินซัก 5-6 แผ่นก็เบื่อซะแล้ว

ราคา...จะรู้ไปทำไม เพราะไม่แนะนำให้ทานเลยค้าบบบ

จริงๆจะว่าไป ไอ้รสชาติประหลาดๆทั้งหลายของ Pringles ที่ออกมาช่วงไม่กี่เดือนนี้ เรียกได้ว่าเป็นความล้มเหลวด้านรสนิยมการบริโภคเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ได้เรียนรู้เอาเลยว่า คนไทย คุ้นชินกับรสชาติและกลิ่นแบบไหน อย่าบอกให้ผมต้องลองชิม รสอื่นๆทั้งกุ้ง ปู บลูเบอรี่ มะนาว ของเขาอีกเลยนะขอร้อง เพราะเคยลองแล้ว เอาไปให้สุนัขชิมต่อแทบไม่ทัน 555

ผมคิดว่านักสร้างสรรค์รสชาติอาหารของ Pringles น่าจะไปเรียนรู้จาก Lays หน่อยนะว่า รสอร่อยที่ถูกใจคนไทยมันเป็นเยี่ยงไร....

Why we called ourselves Guinea PIG?

The reason is simple, I kinda upset in snack buying experience! Most of the time I found a very promising new product on the supermarket shelf but the result was horrified sometimes. So I guess you may have that kind of experience as well.

Would it better to have somebody taste it for you?

My friends and I devote ourselves and our time to taste what is new for you, not because we have been paid to do but it has been done by our curiosity as well as our stomach driven nature,ha ha.

Sit back and relax........

จะเขียนภาษาอังกฤษไปทำไมเนี่ย.....

เอ้าพี่น้อง เหตุผลง่ายๆที่หมู่เฮาทั้งหลายตั้งใจจะทำ Blog นี้ขึ้นมาก็เพราะว่าพวกของหมู่เฮานั้น พบกับประสบการณ์ไม่เข้าท่าจากการเลือกซื้อขนมใหม่ๆมากินแล้วก็ทิ้งอยู่บ่อยๆ เพราะรสชาติห่วยเหลือจะกล่าว
ดังนั้นจะดีกว่าไหมที่จะมีใครสักคนที่เสียสละ ตัวเองและกระเพาะมาลองชิมก่อน เพื่อเป็นประโยชน์แก่พี่น้องร่วมชาติของเรา จ๊ากกกกก....เกินป๊ายยยยพี่ค้าบ จริงๆก็แค่ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเราก็เท่านั้นแหละว่า อะไรมันอร่อย ถูก มันส์

สมาชิกเริ่มแรกมีกัน 3 คน คือตัวขะเจ้าเอง Mr.Pong, Mr.Puvanai & Mr.Put เหล่า 3 P นี้จะขอรับอาสาเป็น Guinea Pigs หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า หนูทดลอง แต่ดูจากสารรูปของทั้งสามท่านแล้ว เราขอเรียกว่าเป็น "หมูทดลอง" ดูจะเหมาะสมกว่า

เอาล่ะค้าบบบ ขอเชิญนั่งลง และร่วมเดินไปกับเส้นทางแห่งรสชาติ ของพวกเฮาได้นับแต่บัดนี้.......................